เปรียบเทียบชิงเกิ้ลรูฟกับกระเบื้องมุงหลังคาทั่วไป แบบไหนเหมาะกับบ้านคุณมากกว่า

เปรียบเทียบชิงเกิ้ลรูฟกับกระเบื้องมุงหลังคาทั่วไป แบบไหนเหมาะกับบ้านคุณมากกว่า?

เปรียบเทียบชิงเกิ้ลรูฟกับกระเบื้องมุงหลังคาทั่วไป: แบบไหนเหมาะกับบ้านคุณมากกว่า?

เมื่อถึงเวลาที่เจ้าของบ้านต้องเลือกวัสดุมุงหลังคา หนึ่งในคำถามที่มักเกิดขึ้นคือ “ชิงเกิ้ลรูฟ” หรือ “กระเบื้องหลังคาทั่วไป” แบบไหนดีกว่า? ซึ่งกระเบื้องหลังคาทั่วไปในที่นี้หมายถึงกระเบื้องซีเมนต์ (ลอนคู่) และกระเบื้องเซรามิกที่นิยมใช้กันมาอย่างยาวนาน

บทความนี้จะพาคุณเปรียบเทียบคุณสมบัติของทั้งสองประเภทในหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องน้ำหนัก การระบายน้ำ อายุการใช้งาน ความง่ายในการติดตั้ง รวมถึงความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจ เพื่อให้คุณสามารถเลือกวัสดุที่ตอบโจทย์ได้อย่างมั่นใจที่สุด

  1. น้ำหนักและโครงสร้าง

ชิงเกิ้ลรูฟ มีจุดเด่นที่น้ำหนักเบามาก โดยน้ำหนักเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 8-10 กิโลกรัมต่อตารางเมตร ทำให้ช่วยลดภาระต่อโครงสร้างหลังคาและโครงสร้างบ้านโดยรวม เหมาะกับบ้านที่ต้องการออกแบบให้โครงสร้างเบา หรือบ้านรีโนเวทที่ต้องการเปลี่ยนวัสดุโดยไม่ต้องรื้อระบบทั้งหมด

กระเบื้องซีเมนต์/เซรามิก มีน้ำหนักค่อนข้างมาก อยู่ที่ประมาณ 40-60 กิโลกรัมต่อตารางเมตร ซึ่งอาจจำเป็นต้องใช้โครงสร้างเหล็กหรือไม้ที่แข็งแรงขึ้น ส่งผลให้ต้นทุนโครงสร้างเพิ่มตามมา

  1. การระบายน้ำและกันรั่ว

ชิงเกิ้ลรูฟ ได้เปรียบเรื่องความยืดหยุ่นในการติดตั้งบนพื้นผิวลาดเอียง ช่วยให้น้ำไหลลื่น ไม่เกิดแอ่งน้ำ และลดโอกาสการรั่วซึม โดยเฉพาะเมื่อติดตั้งบนมุมที่ซับซ้อน เช่น หลังคาทรงปั้นหยา หลังคาทรงจั่วหลายระดับ

กระเบื้องทั่วไป แม้จะกันน้ำได้ดีเมื่อปูอย่างถูกวิธี แต่หากติดตั้งผิดพลาด หรือหลังคามีความซับซ้อน อาจมีโอกาสเกิดการรั่วซึมตามรอยต่อได้มากกว่า

  1. อายุการใช้งาน

ชิงเกิ้ลรูฟคุณภาพสูง มีอายุการใช้งานเฉลี่ยอยู่ที่ 20-30 ปี หากติดตั้งอย่างถูกวิธีและมีการบำรุงรักษาที่เหมาะสม บางรุ่นมีเทคโนโลยีเคลือบ UV เพิ่มอายุการใช้งานอีกด้วย

กระเบื้องซีเมนต์ มีอายุการใช้งานประมาณ 25-40 ปี และ กระเบื้องเซรามิก อาจมีอายุการใช้งานยาวนานกว่า 40 ปี หากไม่มีการแตกหรือร้าวก่อนเวลา จึงยังคงได้เปรียบในระยะยาวในบางกรณี

  1. ความง่ายในการติดตั้ง

ชิงเกิ้ลรูฟ ติดตั้งได้รวดเร็ว ไม่ต้องใช้ปูนกาว ไม่ต้องเรียงแผ่นอย่างพิถีพิถันเหมือนกระเบื้อง เพียงใช้ตะปูหรือตะปูยิงยึดกับแผ่น OSB หรือไม้อัด ทำให้ประหยัดเวลาและแรงงานได้มาก

กระเบื้องทั่วไป ต้องการความละเอียดในการเรียงแผ่นให้แนบสนิทกัน ใช้เวลาติดตั้งนานกว่า และจำเป็นต้องมีช่างที่ชำนาญโดยเฉพาะ

  1. ดีไซน์และความสวยงาม

ชิงเกิ้ลรูฟ มีให้เลือกหลายสี หลายลวดลาย เช่น สีทึบล้วน สีไล่เฉด สีลายไม้ หรือแม้แต่ลายหินธรรมชาติ ซึ่งเข้ากันได้ดีกับบ้านสไตล์โมเดิร์น รีสอร์ท และทรอปิคอล

กระเบื้องหลังคาทั่วไป มีดีไซน์มาตรฐานตามแบบลอนหรือเรียบ มีสีให้เลือกหลากหลาย แต่ข้อจำกัดคือไม่สามารถทำลวดลายแปลกตาได้เหมือนชิงเกิ้ลรูฟ

  1. ความคุ้มค่าระยะยาว

แม้ ชิงเกิ้ลรูฟ จะมีราคาต่อหน่วยสูงกว่ากระเบื้องซีเมนต์ แต่เมื่อนำมาคิดรวมกับต้นทุนโครงสร้างที่เบากว่า ค่าติดตั้งที่ถูกกว่า และการดูแลรักษาที่ง่ายกว่า ก็อาจทำให้คุ้มค่ากว่าในระยะยาว

ในขณะที่ กระเบื้องซีเมนต์หรือเซรามิก ราคาต่อแผ่นอาจถูกกว่า แต่เมื่อต้องใช้งานในโครงสร้างขนาดใหญ่ หรือบ้านที่ต้องการออกแบบซับซ้อน ต้นทุนโดยรวมอาจสูงกว่าที่คิด

สรุป: บ้านคุณเหมาะกับวัสดุแบบไหน?

  • หากคุณต้องการบ้านดีไซน์ทันสมัย มีโครงสร้างเบา ติดตั้งเร็ว และเน้นความยืดหยุ่น ชิงเกิ้ลรูฟ คือคำตอบที่น่าสนใจ
  • แต่ถ้าคุณมองหาความทนทานในระยะยาว และไม่ซีเรียสกับน้ำหนักโครงสร้าง กระเบื้องเซรามิกหรือซีเมนต์ ยังคงเป็นทางเลือกที่ดี

การตัดสินใจสุดท้ายขึ้นอยู่กับ ดีไซน์บ้าน, งบประมาณ, และ ความคาดหวังในระยะยาว ของคุณเอง

 

Similar Posts